ชื่อเรื่อง : ๑.บริบทของพื้นที่
รายละเอียด : ๑.๑ ประวัติความเป็นมาของ เหตุที่ได้ชื่อ “นาป่าแซง” เพราะเมื่อสมัยก่อนลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไปเป็นที่ลุ่มทุ่งนา มีบึงน้ำ ลำห้วย ล้อมรอบ และมีป่าต้นแซง ( มีลักษณะเป็นกอ ลำต้นเล็กเรียว เป็นปล้องคล้ายต้นหญ้าแขม มีดอกสีแดงอมม่วง ) ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก และอยู่ห่างจากตัวอำเภอปทุมราชวงศา ไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๕ กิโลเมตร และเมื่อน้ำลดลงพื้นที่ดังกล่าวจึงมีผู้คนเริ่มเข้ามาอยู่อาศัยเพื่อประกอบอาชีพทำนา และตั้งเป็นชุมชนมากขึ้นโดยมีเส้นทางเกวียนที่ใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาระหว่างตัวอำเภอกับชุมชน จึงมีคนพูดกันติดปากว่า “นาป่าแซง” ตำบลนาป่าแซง เป็นตำบลหนึ่งใน ๗ ตำบล ของอำเภอปทุมราชวงศา ซึ่งแยกจากตำบลนาหว้า โดยได้รับการประกาศจากกระทรวงมหาดไทยแยกเขตการปกครองเป็นตำบลนาป่าแซง มีผลเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๖ ตามประกาศในราชกฤษฎีกานุเบกษา เล่มที่ ๑๑๐ ตอนที่ ๘๗ ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๓๖ ซึ่งสภาตำบลนาป่าแซงยกฐานะเป็นองค์การบริหารส่วนตำบลนาป่าแซง เมื่อวันที่ ๒๓ เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๐ และได้ยกฐานะจากองค์การบริหารส่วนตำบลนาป่าแซงเป็น เทศบาลตำบลนาป่าแซง เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๒ แบ่งการปกครองออกเป็น ๑๐ หมู่บ้าน มีผู้บริหารท้องถิ่นคนแรกรวมถึงคนปัจจุบัน จำนวน ๘ คน มีการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาตำบลที่มีความต่อเนื่อง และแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ ตอบสนองความต้องการในการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและทันต่อเหตุการณ์ ปัจจุบันเทศบาลตำบลนาป่าแซง ๔ องค์กร ใช้หลักในการดำเนินงานที่มุ่งสู่การจัดการตนเองของชุมชนท้องถิ่น และพัฒนาเครือข่ายน่าอยู่ตำบลสุขภาวะ โดยยึดหลักการทำงานที่พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน มีการทำงานด้วยกลไกเฉพาะของพื้นที่ ในรูปแบบ “คณะทำงานไทนาป่าแซงบ่ถิ่มกัน” ที่นำปัญหาในพื้นที่และทุนที่มีในตำบลมาใช้ประกอบการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในตำบล ที่รักษาวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นไว้ ดังคำขวัญที่บ่งบอกลักษณะของพื้นที่ภาพรวมไว้ว่า “ข้าวหอมมะลิเลิศรส เขาสุรรณบรรพตสดสี แหล่งโคดีพันธุ์พื้นเมือง งามรุ่งเรืองพระธาตุใหญ่ หมี่ขิดไหมลายงาม เลิศรสล้ำแจ่วบอง” จากคำขวัญดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าตำบลนาป่าแซงเป็นพื้นที่ทำเกษตรกรรม มีวัฒนธรรมประเพณี ที่สืบต่อกันมา และใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นของบรรพบุรุษสร้างมูลค่าในทางเศรษฐกิจ ตามวิถีชีวิตคนตำบลนาป่าแซง จนเกิดเป็นแหล่งเรียนรู้ในตำบล เช่น กลุ่มเกษตรปลอดสาร อาหารปลอดภัย ที่สมาชิกรวมกลุ่มกันทำนาข้าวและปลูกผักปลอดสารเคมี กลุ่มทอผ้าสไบและกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นสืบทอดกันมาถักทอเป็นผืนผ้าลายงามขายสร้างรายได้ให้ครอบครัว และมีวัฒนธรรมท้องถิ่นอันดี คือ การเวียนเทียนทุกวันพระใหญ่รอบพระธาตุนาป่าแซง ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน ประกอบกับการใช้ภูมิปัญญาด้านการถนอมอาหารปรุงเป็นอาหารที่มีรสแซบที่เรียกว่าแจ่วบอง ๑.๒ สภาพลักษณะภูมิศาสตร์ของพื้นที่ ตำบลนาป่าแซง มีพื้นที่เขตรับผิดชอบประมาณ ๘๑.๓๔ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๕๐,๘๓๘ ไร่ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอำเภอปทุมราชวงศา ห่างจากอำเภอปทุมราชวงศา ประมาณ ๕ การเดินทางสู่จังหวัดอำนาจเจริญ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๒๑๒ ถนนอรุณประเสริฐ สายอำนาจเจริญ – เขมราฐ ตำบลนาป่าแซง ห่างจากตัวจังหวัดอำนาจเจริญประมาณ ๒๕ กิโลเมตร อาชีพหลักทำเกษตรกรรม รองลงมารับจ้าง และเลียงสัตว์ ตามลำดับ ๑.๒.๑ อาณาเขตติดต่อ แผนภาพที่ ๑ แผนภาพอาณาเขตพื้นที่ติดต่อ ทิศเหนือ บ้านคำย่านางหมู่ ๘ ตำบลนาป่าแซง ติดกับ บ้านหนองไฮน้อย ตำบลหนองข่า อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ มีภูพริกและภูเปาะซึ่งเป็นป่าที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์เป็นแนวแบ่งเขต ระหว่าง กับบ้านหนองไฮน้อยตำบลหนองข่า ทิศตะวันออก บ้านนาถาวร หมู่ ๕ ตำบลนาป่าแซง ติดกับ บ้านนาหว้า ตำบลนาหว้า อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ มีลำห้วยยางเป็นแนวกั้นเขตตลอดแนว ทิศตะวันตก บ้านโคกเจริญ หมู่ ๙ ตำบลนาป่าแซง ติดกับ บ้านโนนงาม ตำบลโนนงาม อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ มีลำห้วยพระเหลากั้นแนวเขตตลอดแนว ทิศใต้ บ้านวินัยดี หมู่ ๔ และบ้านโคกพระ หมู่ ๑๐ ตำบลนาป่าแซง ติดกับ บ้านโสกใหญ่ ตำบลลือ อำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวินัยดี ให้บริการดูแลสุขภาพของประชาชนบ้านโสกใหญ่ ตำบลลือ ร่วมกันกับ ตำบลนาป่าแซง ๑.๒.๒ ข้อมูลประชากร เทศบาลตำบลนาป่าแซง แบ่งเขตการปกครอกท้องที่ออกเป็น ๑๐ หมู่บ้าน จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของเทศบาลตำบลนาป่าแซง มีจำนวนประชากร ทั้งหมด รวม ๕,๘๗๖ คน แยกเป็นชาย ๒,๙๗๑ คน หญิง ๒,๙๐๕ คน และมีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด ๑,๘๑๐ ครัวเรือน ประชากรเฉลี่ย ๓.๒๔ คน ต่อเครือเรือน จากการจัดเก็บข้อมูลผู้ที่อยู่อาศัยจริงในพื้นที่ด้วยการจัดทำระบบข้อมูลตำบล(TCNAP) พบว่าตำบลนาป่าแซงมีจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จริง จำนวน ๔,๙๓๓ คน แยกเป็นชาย ๒,๔๙๒ คน หญิง ๒,๔๔๑คน และมีจำนวนครัวเรือนทั้งหมด ๑,๔๕๗ ครัวเรือน ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มประชากรที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ มีเฉพาะบ้านเลขที่แต่ไม่มีคนอาศัย จำนวน ๔๘๐ ครัวเรือน
ชื่อไฟล์ : ndbXYWdWed112614.png file_download ดาวน์โหลดไฟล์นี้